หมึกบลูริง 1

เตือนภัยหมึกบลูริง! หนุ่มเกือบตายเพราะ“ซูชิ”ร้านรับไม่ได้แล่เอง!

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เตือนภัยในกลุ่มและแจ้งเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากร้านซูชิในท้องที่ของตน โพสต์ระบุว่ามีความเสี่ยงจากหมึกที่มีลักษณะวงที่หนวดแต่ไม่ได้พูดถึงที่โคนหนวด และเรียกร้องให้ผู้ใช้งานในกลุ่มระมัดระวังและไม่ควรบริโภคหากไม่มั่นใจ โดยยืนยันว่าเป็นรูปภาพจากร้านซูชิใกล้บ้าน

ในการโพสต์นี้, ผู้ใช้ยังแนบรูปเปรียบเทียบหมึกบลูริงและหมึกอิคคิวที่ทานได้ โดยทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างวงของหมึกทั้งสองประเภท โพสต์นี้ถือเป็นการแสดงความห่วงใยต่อผู้บริโภคและเป็นการเตือนที่ดีในการตรวจสอบคุณภาพของปลาหมึกที่บริโภค

อีกทั้ง, นอกจากการแนบรูปเปรียบเทียบ, ผู้ใช้เน้นให้คนทั้งในกลุ่มและผู้อ่านทั่วไปมีความระมัดระวังต่อคุณภาพของปลาหมึกที่กำลังจะบริโภคและเรียกร้องให้ทุกคนให้ความสนใจในที่มาของวัตถุดิบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากปลาหมึกที่อาจมีพิษหรือเสี่ยงต่อสุขภาพ

หมึกบลูริง 2

หมึกบลูริงหรือหมึกสายวงน้ำเงิน เป็นหมึกขนาดเล็กที่มีลักษณะพิเศษ โดยจะมีลายวงกลมที่คล้ายแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วงตามลำตัว และสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม หมึกบลูริงมีจุดเด่นที่สีสันน่าประทับใจและมีความน่าสนใจทางธรรมชาติ

การสัมผัสกับหมึกบลูริงอาจทำให้มีความเสี่ยงต่อสารพิษที่อาจถูกปล่อยออกมาจากตัวหมึกเอง ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อสัตว์หรือคนที่มีการสัมผัสกับมัน

ในท้องทะเลของประเทศไทย, มีหมึกสายวงน้ำเงินอย่างน้อย 1 สปีชีส์ (จากทั้งหมด 3-4 สปีชีส์) ที่ชื่อว่า Hapalochlaena maculosa ที่สามารถพบได้ทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย

พิษของหมึกสายวงน้ำเงินเกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในต่อมน้ำลายของมัน ซึ่งเป็นแบคทีเรียสกุล Bacillus และ Pseudomonas นอกจากนี้ยังพบพิษได้ในไข่ของหมึกด้วย

การรับประทานหรือสัมผัสกับหมึกบลูริงนั้นเสี่ยงต่อสุขภาพ เพื่อความปลอดภัย, ควรตรวจสอบคุณภาพของปลาหมึกที่บริโภคและควรทราบถึงที่มาของวัตถุดิบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการบริโภคปลาหมึกที่อาจมีสารพิษหรือเสี่ยงต่อสุขภาพ

วิธีการสังเกตระหว่างหมึกอิคคิวและหมึกบลูริงนั้นสามารถทำได้โดยทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะพิเศษของทั้งสองชนิดได้ดังนี้:

หมึกอิคคิว:

มีลายวงแหวนที่ลำตัว 1-2 วง.
สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดพิษ.
หมึกบลูริง:

มีลายวงแหวนสีฟ้าที่สะท้อนแสงเล็ก ๆ ตามลำตัวและหนวด.
ลำตัวขนาดเล็กประมาณ 4-5 ซม., หนวดยาวประมาณ 15 ซม.
มีพิษที่ไม่ควรรับประทาน และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส.
พิษของหมึกบลูริงมีความรุนแรงมากที่สุดในสัตว์น้ำที่รู้จัก, แรงกว่างูทะเลหลายเท่าและแรงกว่าพิษงูเห่าถึง 20 เท่า สามารถทำให้ผู้โดนพิษเสี่ยงต่ออาการหายใจไม่ออก, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, กระบังลมเป็นอัมพาตในทันที ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอดได้ท้ายที่สุดและสามารถเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว

เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการบริโภคหรือสัมผัสหมึกบลูริง, ควรเลือกที่มาของปลาหมึกอย่างรอบคอบ, ไม่รับประทานหรือสัมผัสที่ไม่ทราบที่มา และควรเลือกร้านอาหารที่มีความรู้ในการจัดหาวัตถุดิบและมีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้, ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานทางการแพทย์เพื่อความปลอดภัยที่เพียงพอ.

ขอบคุณบทความจาก : หมึกบลูริง